icon member

ซีรีส์เลือดมังกร : กระทิง

ตอนที่ 7

แผนการของเฉียง คือยอมทำงานเป็นมือขวาของเล้ง โดยมีโบตั๋นร่วมมือห่างๆ ตอนเขาต้องการล้วงความลับจากเสี่ยใหญ่ เพื่อหาโอกาสล้างแค้นให้ธาม เล้งยินดีมากเมื่อได้คำตอบจากเฉียง แต่ไม่วายดักคอ

“กฎของแก๊งมังกรดำ...สั้นๆง่ายๆ คิดให้ดีก่อนเข้า เพราะเข้าแล้วออกไม่ได้!”

เฉียงไม่ประหลาดใจที่ได้ยินคำขู่ สบตาแบบไม่หลบและยืนยันคำตอบ จะขอเป็นลูกสมุนเล้งนับแต่วันนี้ เล้งมองท่าคารวะอย่างนอบน้อมของอดีตมือขวาของธามด้วยแววตากะหยิ่มใจ แตะบ่ามือขวาคนใหม่เบาๆ

“ลุกขึ้น...พิสูจน์ให้อั๊วเห็นว่าลื้อคือคนของแก๊ง มังกรดำ”

วิธีพิสูจน์ของเล้ง คือให้เฉียงตามไปคุมการส่งทองเถื่อนที่โกดังริมน้ำให้มิสเตอร์ลี ลูกค้ารายใหญ่ที่แท้จริงเป็นนกต่อของธาม ที่ตั้งใจส่งมาล่อซื้อทองเถื่อนและยาเสพติดจากเล้ง และคืนนี้ก็เป็นคืนสำคัญเพราะธาม ให้จิวส่งข่าวถึงชานนท์ให้ตามไปดักจับ ส่วนตัวเขาจะเตรียมลูกน้องให้พร้อม และบุกตามไปสังเกตการณ์อีกที

เฉียงรู้ตัวว่ากำลังถูกทดสอบ และรู้ด้วยว่าการส่งทองเถื่อนคืนนี้เป็นแผนล่อของธาม เพราะร่วมวางแผนกับธามและจิวมาก่อน เลยอดเป็นกังวลไม่ได้ กลัวจะเล่นละครตบตาไม่สำเร็จ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับธาม โบตั๋นเข้าใจความรู้สึกเขาดี เธอก็วิตกไม่ต่างกัน แต่ก็ต้องพยายามให้กำลังใจ

“เรากลัวเพราะเรารู้สึกผิด แต่คุณบอกฉันเองว่าเราต้องทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อลบล้างความผิดที่เราทำ”

“มันยากนะโบตั๋น ยากที่จะหลอกคนอื่นว่าเราเป็นศัตรูของเฮีย”

“คุณต้องทำได้อาเฉียง ยิ่งคุณบาดหมางกับเฮียลึกมากเท่าไหร่ เสี่ยเล้งจะไว้ใจคุณมากเท่านั้น”

“ผมจะหลอกตัวเอง หลอกเฮียได้ยังไง”

“คุณรักเฮีย ฉันก็รักเฮีย เราต่างก็เจ็บปวด ฉันก็ทุกข์ใจไม่น้อยไปกว่าคุณ แต่เราจะผ่านความทุกข์นี้ไปด้วยกัน”

ระหว่างที่เฉียงพกกำลังใจเต็มเปี่ยมไปพิสูจน์ตนเองกับเล้งที่โกดังริมน้ำ...สุ่ยถึงกับอ้าปากค้าง พูดไม่ออก เมื่อรู้จากหยกมณีว่านักร้องสาวดาวรุ่งเป็นชู้กับเฉียง แถมธามก็รู้เรื่องและตัดสินใจตัดขาดจากทั้งสองคน โบตั๋นมาทำงานตามปกติ แอบได้ยินทุกอย่าง หน้าชาแต่ฮึดสู้ ปรากฏตัวด้วยมาดนางพญา แต่ไม่วายปรายตาดุๆ ไปทางย่าหยาที่กำลังแต่งตัวไม่ไกลกันนั้น พร้อมกับพูดลอยๆ

“คงมีใครบางคนดีใจจนเนื้อเต้น ฝันไปเถอะ...ว่าจะได้เป็นเมียเฮีย”

จบคำก็ผละไปร้องเพลง ทิ้งให้สุ่ยมองตามด้วยความเอือมระอา

“อยู่กับคนที่เขาไม่รัก มันก็เจ็บ บังคับให้เขารัก ก็ไม่ได้ แต่หาทางออกแบบนี้ยิ่งวุ่นไปกันใหญ่... อาโบตั๋นเอ๊ย”

ooooooo

การส่งทองเถื่อนระหว่างเล้งกับมิสเตอร์ลีผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งสองฝ่ายจะแยกย้าย จู่ๆก็เกิดเสียงปืนดังสนั่น เกี๊ยงกับฮกรีบพาเล้งออกไป เช่นเดียวกับผู้ติดตามของมิสเตอร์ลี ซึ่งแท้จริงคือลูกน้องของธามปลอมตัวมา ก็รีบพานกต่อหนุ่มของเจ้านายหนีไปในทิศทางตรงกันข้าม

ชานนท์นั่นเองที่ยกพวกเกือบทั้งกรมมาบุกจับทองเถื่อนของเล้ง แต่ทุกอย่างก็ชุลมุนจนลูกน้องหลายคนถูกยิงบาดเจ็บ ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล ตำรวจหนุ่มเลยต้องถอนกำลังด้วยความหัวเสีย...เจ็บใจนักที่จับใครไม่ได้เลย!

ฝ่ายเล้ง...เข้าไปหลบตัวในโกดัง อาละวาดลูกสมุนอย่างหนักที่แผนส่งทองเถื่อนนัดสำคัญถูกบุกจับแบบไม่ทันตั้งตัว เกี๊ยงสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือเฉียง แอบส่งข่าวให้ตำรวจ แต่ไม่ทันปะติดปะต่ออะไรมาก ก็ต้องพาเสี่ยใหญ่หนีออกไปข้างนอก เมื่อมีกลุ่มไอ้โม่งปริศนาตามเข้ามาโจมตีถึงในโกดัง

กลุ่มไอ้โม่งปริศนาคือพวกธามนั่นเอง ที่นำกำลังมาล้อมจับพวกเล้งอีกแรง หากชานนท์พลาด แล้วก็เป็นดังคาด การดักจับล้มเหลวเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา กระทิงหนุ่มเลยบุกจับเล้งด้วยตัวเอง แต่แล้วความฮึกเหิมของเขาก็ถูกแปรเปลี่ยนเป็นความตกตะลึง เมื่อได้เผชิญหน้ากับเฉียง...ในฐานะมือขวาคนใหม่ของเล้ง!

ไม่ใช่ธามคนเดียวที่ผงะ เฉียงก็แทบลืมหายใจเช่นกัน เมื่อเผชิญหน้าอดีตเจ้านายอีกครั้ง แต่ถึงกระนั้น...เพื่อแผนการใหญ่ในอนาคต เฉียงเลยต้องปะทะฝีมือกับธามอย่างดุเดือด เพื่อตบตาเล้งให้เชื่อใจ ซึ่งกระทิงหนุ่มก็โต้ตอบด้วยความว่องไว และเกือบจะต้อนอดีตมือขวาให้จนมุมอยู่หลายครั้ง แต่เฉียงก็ไม่ย่อท้อ สู้ถ่วงเวลาให้เล้งหนีอีกครู่ใหญ่ ก็รีบผละตามไป ทิ้งธามให้ตะโกนไล่หลัง

“เจอกันคราวหน้า...ลื้อไม่ต้องปิดหน้าให้เสียเวลาหรอก!”

ถึงจะต้องหนีตายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เล้งก็ไม่ยอมผิดนัดย่าหยาที่จะพาไปเต้นรำที่บางปู แต่ไม่ทันได้ออกจากภัตตาคาร ธามก็โผล่มาขวาง พร้อมแกล้งชมชุดสวยของสาวเสิร์ฟหน้าหวานที่เขาจำได้ดีว่าเป็นคนนำไปให้เธอกับมือเมื่อตอนเย็น เพราะไม่ชอบใจชุดที่เล้งเตรียมมาให้
เล้งถามด้วยสีหน้างุนงงระคนหวาดระแวง “ทำไมไม่ใส่ชุดที่ฉันซื้อให้ล่ะ ฉันเลือกเองกับมือเลยนะ”

“คือ...ชุดนั้นมัน เอ่อ...คับไปหน่อยน่ะค่ะ”

ธามอดใจไม่ไหว ต้องแกล้งถาม “งั้นชุดนี้ใครเลือกให้ล่ะ ใส่ได้พอดีเหมือนรู้ขนาด”

ย่าหยาหน้าร้อนผ่าว นึกเคืองเขาไม่น้อยที่ชอบพูดสองแง่สองง่าม ชวนให้ใครต่อใครเข้าใจผิดเสมอ แต่ยังมีสติ ไม่คิดล้มเลิกแผนการหว่านเสน่ห์ของตัว ควงเล้งผ่านหน้ากระทิงหนุ่มไปอย่างหน้าตาเฉย!

ธามได้แต่ฮึดฮัดคนเดียวด้วยความอึดอัด เริ่มได้กลิ่นแปลกๆว่าตัวเองอาจมีความรู้สึกบางอย่างกับย่าหยาเข้าแล้ว เลยเกิดอาการหงุดหงิดงุ่นง่านเช่นนี้ แต่ไม่ทันได้ตามไปกวนประสาทให้หายแค้น สุ่ยก็โผล่มาตามที่เขาขอร้องเมื่อตอนเย็น และช่วยรั้งเล้งกับย่าหยาให้อยู่ร่วมงานวันเกิดของเธอที่ฉั่วเทียนเหลาแทนการไปเต้นรำที่บางปู

แต่ถึงจะรั้งตัวเล้งกับย่าหยาไว้ได้ ธามก็ต้องหัวเสียเหมือนเดิม เมื่อเล้งทำท่าพะเน้าพะนอ เอาอกเอาใจย่าหยาจนออกนอกหน้า แถมลากเธอไปเต้นรำกลางฟลอร์ แสดงความรักด้วยการสบตาหวานเชื่อมแบบไม่อายใคร

ย่าหยาทั้งเครียดและอึดอัดไม่แพ้ธาม แต่ต้องตีหน้ายิ้มแย้ม โปรยเสน่ห์ให้เสี่ยใหญ่หลงรักตามแผน โดยมีโบตั๋นมองตามด้วยความหมั่นไส้ เสียใจและเจ็บใจยิ่งนักที่สาวเสิร์ฟหน้าหวานได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องทำอะไรเลย

ธามเกือบหมดความอดทน ถ้าจิวไม่มาตามไปพบมิสเตอร์ลีที่ด้านนอกฉั่วเทียนเหลาเสียก่อน นกต่อหนุ่มมารายงานเรื่องการส่งทองเถื่อนที่ราบรื่นและเรียบร้อยทุกอย่าง พร้อมกับสัญญาจะทำตามที่นัดแนะในอีกสองครั้งข้างหน้าที่จะมาถึง กระทิงหนุ่มยื่นมือจับกับอีกฝ่ายเพื่อยืนยันข้อตกลง ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าภัตตาคาร เวลาเดียวกับที่สุ่ยเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสวย และจะไปกล่าวเปิดงานบนเวที

ooooooo

งานวันเกิดของสุ่ยถูกจัดอย่างใหญ่โตและฟู่ฟ่าตามฐานะและสถานะเจ้าของวันเกิด โดยมีหยกมณีเป็นแม่งานใหญ่ ทั้งเป็นตัวแทนกล่าวคำอวยพร และร้องเพลงให้แขกเหรื่อเต้นรำ สุ่ยสบตากระทิงหนุ่มอย่างรู้กัน เพราะนัดแนะกันก่อนหน้า แล้วเดินไปประกบเล้ง ขอเต้นรำด้วย เพื่อดึงเสี่ยใหญ่ออกจากย่าหยา

เล้งยืดอกโอ่ๆ เมื่อสุ่ยป้อยอคำหวาน ชมว่าเขาเป็นหนุ่มหล่อตลอดกาลประจำเยาวราช และยอมไปเต้นรำด้วยความยินดีและไม่ถือตัว เปิดโอกาสให้ธามเข้าประชิดย่าหยาและลากเธอออกไปเต้นรำได้สมใจ

เสียงเพลงหวานอันคุ้นเคยจากหยกมณี พาสองหนุ่มสาวดำดิ่งสู่อดีตเมื่อเจ็ดปีก่อน ทั้งตอนที่เจอกันครั้งแรก และตอนซ้อมเต้นรำด้วยกันใหม่ๆ ธามกับ
ย่าหยาเหมือนตกในภวังค์แห่งความหลังต่างจ้องหน้ากันไปมาราวกับต้องการจะค้นหาตัวตนแท้จริงของอีกฝ่ายว่าเป็นใครกันแน่...ธามหรือชลธี และย่าหยาหรือจันทร์ชมพู!

แต่ห้วงเวลาแห่งความหลังก็จบลงอย่างกะทันหัน เมื่อจู่ๆย่าหยาก็เป็นลมต่อหน้าต่อตา เล้งซึ่งจับตามองอยู่แล้ว รีบผละจากสุ่ย ถลาไปรับร่างปวกเปียกของสาวเสิร์ฟหน้าหวาน ธามพยายามยื้อจะพาไปส่งห้องพัก

แต่เธอก็ไม่ยอมเพราะกลัวเสียแผน กระทิงหนุ่มเลยได้แต่มองตามด้วยความหึงสุดขีด โดยมีสุ่ยคอยปลอบว่าช่วยได้แค่นี้จริงๆ

โบตั๋นเห็นเหตุศึกชิงนางทุกอย่าง เธอกลับบ้านด้วยหัวใจที่แหลกสลาย เมื่อตระหนักได้ว่าสายตาธามคงไม่เหลือไว้มองใคร นอกจากย่าหยา เฉียงนั่งรออยู่แล้วด้วยอารมณ์หดหู่ไม่แพ้กัน เพราะเพิ่งเจอกับธามมา

“ผมไม่แน่ใจว่าจะทนอยู่ในสภาพนี้ไปได้นานแค่ไหน มัน...ทรมาน”

“ถ้าเรายอมแพ้ตอนนี้ เราจะทรมานน้อยลงหรือ เราจะหนีไปไหน เราก็ต้องติดกับความรู้สึกผิดไปจนตาย แต่เราจะตายอย่างคนที่ทำอะไรถูกต้องในชีวิตบ้าง หรือจะยอมตายอย่างคนที่ได้ชื่อว่าเนรคุณคนไปตลอดชีวิตดีล่ะอาเฉียง”

เวลาเดียวกันหน้าหอพักของย่าหยา...เล้งขับรถมาจอดด้านหน้า สีหน้าเป็นกังวล และอยากให้สาวเสิร์ฟหน้าหวานไปตรวจที่โรงพยาบาล แต่ย่าหยาก็ยืนกรานจะขอพักที่ห้อง ไม่อยากให้วุ่นวาย เสี่ยใหญ่ไม่สบายใจนักแต่ต้องยอม แล้วก็ได้ยิ้มไม่หุบ เมื่อเธอเริ่มให้ความหวังจะแต่งงานด้วย ถ้าเขาพิสูจน์ตัวได้ว่าจริงใจกับเธอจริงๆ

ภาพที่เล้งยกมือย่าหยามาจูบอย่างทะนุถนอม ทำให้ธามแทบคลั่งด้วยความหึง และไม่รอช้าไปดักรอหน้าห้องของเธอ พร้อมวาจาประชดประชันเหน็บแนม ที่เธอใช้มารยาสาไถยจนเล้งเริ่มตายใจ ย่าหยาส่ายหน้าเอือมๆ

“คุณจะตามฉันมาทำไม ดึกดื่นป่านนี้ ฉันไม่มีอารมณ์ทะเลาะกับคุณนะ ฉันอยากนอน พรุ่งนี้ฉันต้องทำงาน”

“ก็แค่มาดูว่าเสี่ยเล้งมาส่งเธอที่นี่ หรือพาไปที่บ้านมัน...แค่นั้น”

ธามจะผละไป ทิ้งให้ย่าหยามองตามงงๆ เดาอารมณ์เขาไม่ถูก ก่อนจะได้อึ้งอีกรอบ เมื่อเขาหันมาแหว “อ้อ...ไม่เคยมีผู้หญิงตระกูลตั้งคนไหนยืนให้ผู้ชายจูบในที่สาธารณะ จะโปรยเสน่ห์ใคร หัดเกรงใจผู้ชายตระกูลตั้งบ้าง!”

พูดจบก็จ้ำอ้าวออกไปจริงๆ ย่าหยาได้แต่มองตามด้วยความรู้สึกหลายหลาก ใจเต้นแรงด้วยความจริงบางอย่างที่ค้นพบว่ากระทิงหนุ่มอาจหึงเธอ ถึงได้ทำท่าพิกลเช่นนี้ในระยะหลัง ซึ่งสิ่งที่เธอคิดก็ไม่ผิดคาดเลย เพราะธามหัวเสียจริงๆ ถึงกับเดินพล่านเกือบทั้งคืน ด้วยความโมโหตัวเอง

“ทำไมต้องเป็นผู้หญิงคนนี้ด้วยวะ ทำไม...แกสลัดผู้หญิงหน้าตาแบบนี้ไม่ได้เลยหรือไงวะนายธี!”

แต่ถึงจะหวั่นไหวไปกับธามแค่ไหน ย่าหยาก็พยายามสลัดความรู้สึกนั้นทิ้ง เพราะยังรักและอยากรอชลธีคนเดียว เธอปักผ้าเช็ดหน้าขึ้นอีกผืนในคืนเดียวกัน และนำไปฝากซินแสง้วงในวันรุ่งขึ้น

“ลื้อนี่ดื้อไม่เลิกอาหยา อาธี...อีไม่กลับมา ลื้อเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้แล้ว ทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่ออาธี”

“หยากำลังทำอยู่ ไม่ใช่แค่เฉพาะอาธี แต่เพื่อทุกคน...ป๊าม้าพี่ธี พ่อแม่หยา หยาจะทำในสิ่งที่ถูกต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทุกคน รวมทั้งตัวหยาเอง”

“ลื้อกำลังเล่นกับไฟ ระวังไฟมันจะเผาใจลื้อ”

“หยาไม่กลัว ในเมื่อมันเริ่มที่ความเกลียดชัง หยาก็จะจบมันด้วยความเกลียดชัง”

สีหน้ามุ่งมั่นและจริงจังของย่าหยาทำให้ซินแสง้วงถอนใจด้วยความเหนื่อยหน่าย แต่ไม่ทันพูดอะไร ธามก็แวะมากับหงส์ เพื่อถามเรื่องฤกษ์แต่งงานของคณินที่เคยขอไว้ ซินแสง้วงรับปากดูให้ แต่คงไม่ได้ผลวันนี้ ธามกับหงส์เลยกลับไปก่อน ไม่ไยดีเลยว่าย่าหยาจะหน้าชาตัวแข็งแค่ไหน เมื่อได้ยินคำว่าฤกษ์แต่งงานจากทั้งสองคน

ธามกับหงส์ หรือแม้แต่ซินแสง้วง ไม่ได้อธิบายว่าเป็นฤกษ์แต่งงานของใคร ย่าหยาเลยเข้าใจเองว่าเป็นงานแต่งระหว่างธามกับหงส์ หัวใจเจ็บจี๊ดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากผลุนผลันจากไป ซินแสง้วงได้แต่มองตามสาวเสิร์ฟหน้าหวานด้วยความหนักใจ พึมพำตามหลัง

“ไม่ใช่ความเกลียด...อาหยา ความรักต่างหากที่จะทำให้ลื้อมอดไหม้”

ooooooo

ย่าหยาพร่ำบอกตัวเองว่าการแต่งงานของธามกับหงส์เป็นเรื่องสมควร เพราะทั้งคู่ต่างก็เหมาะสมกันดี ส่วนเธอ...นักฆ่าในคราบสาวเสิร์ฟ คงต้องยอมรับชะตากรรมที่ตัวเองเลือก แต่ถึงกระนั้น...เสียงเรียกร้องจากหัวใจก็ผลักให้เธอตามไปค้นหาความจริงจนได้ ว่าธามกับหงส์จะแต่งงานกันจริงหรือไม่

ธามกับหงส์นั่งปรับทุกข์กันแถวๆหน้าศาลเจ้า โดยไม่รู้เลยว่าย่าหยาแอบตามมาและได้ยินทุกอย่าง

“หงส์ไม่แน่ใจเลยว่าจะทำได้ดีแค่ไหน...เป็นผู้หญิง พิสูจน์ตัวเองก็ยากแล้ว นี่ต้องมาเป็นหัวหน้าผู้ชายรุ่นพ่ออีก”

“ชายหรือหญิงก็ไม่สำคัญเท่ากับใจ หงส์ต้องมั่นใจ”

“ตั้งแต่เสี่ยอ๋าตาย ทุกคนก็พุ่งเป้ามาที่หงส์ หงส์ได้ยินแต่เสียงนินทาว่าหงส์เป็นตัวซวย เกิดมาทำให้พ่อแม่พี่ชายตาย พอขึ้นเป็นหัวหน้าก็ทำให้ผู้ใหญ่ในสมาคมตายอีก หรือหงส์เป็นตัวซวยอย่างที่เขาว่าจริงๆเฮีย”

หงส์ระบายความอึดอัดทั้งน้ำตา ธามเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับให้ พร้อมปลอบขวัญและให้กำลังใจ

“คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่างเขา สำหรับเฮีย...หงส์คือผู้หญิงที่น่ารักและเข้มแข็งที่สุด หงส์ต้องสู้นะ อย่าให้เฮียเห็นความเข้มแข็งของหงส์คนเดียว หงส์ต้องทำให้คนอื่นเห็นว่าหงส์เข้มแข็งที่สุดด้วย ที่สำคัญ...เฮียรักหงส์ที่สุด จำไว้”

ภาพสองหนุ่มสาวร่วมแก๊งกอดกัน ไม่รุนแรงบาดใจเท่าคำพูดบอกรักหนักแน่นของธามที่มีต่อหงส์ ย่าหยาแทบหมดแรงเดิน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเหตุใดหัวใจถึงเจ็บปวดรวดร้าวถึงเพียงนี้ แต่ถึงจะร้อนรนแค่ไหน นักฆ่าสาวในคราบสาวเสิร์ฟก็พยายามปลุกปลอบตัวเองให้ทำใจ...ธามจะแต่งงานกับใครก็เป็นสิทธิ์ของเขา เธอมีเรื่องบัญชีแค้นกับเล้งต้องสะสาง ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้น ความรักของเธอก็คงไม่มีความหมายหรืออนาคตอะไรแล้ว

ธามแยกกับหงส์หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเห็นเหวินเต๋อกับหยงเป่าเข้าไปหาซินแสในศาลเจ้า แล้วกระทิงหนุ่มก็ค้นพบความลับที่สองหัวหน้าแก๊งใหญ่ปกปิดไว้ ว่าความจริงฮั้วยังมีชีวิต!

ซินแสง้วงไม่อยากให้เข้าใจผิดกัน เลยอธิบายว่าเหวินเต๋อเป็นคนพาร่างถูกยิงสาหัสของฮั้วมาให้รักษา ในคืนเดียวกับที่ร้านของเหวินเต๋อถูกปล้น แต่ฮั้วเคราะห์ร้าย ถูกยิงล้มหัวฟาด สมองเลยได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก จำใครหรือเรื่องอะไรไม่ได้เลย ธามเซ็งจัดที่ใช้ฮั้วเป็นพยานปากเอกไม่ได้ แถมเหวินเต๋อกับหยงเป่ายังคาดโทษให้เป็นความผิดของเขาทั้งหมด หากยังหาคนบงการตัวจริงไม่ได้

ข้อกล่าวหาของเหวินเต๋อกับหยงเป่าหนักหนาเอาการ แต่มีหรือธามจะยอมแพ้ ฉับพลันเขาก็คิดออกว่าจะใช้ประโยชน์จากฮั้วเช่นไร และไม่รีรอจะให้สองหัวหน้าแก๊งใหญ่ร่วมมือด้วย...เดี๋ยวเราได้รู้แน่ว่าใครคือผู้บงการตัวจริง!

บ่ายวันเดียวกัน...ย่าหยาซึ่งยังสลัดความกังวลใจเรื่องธามออกไปไม่ได้ ต้องสะดุ้ง เมื่อเจอกับพ้งที่มาดักรอเพื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องการล้างแค้นเล้ง ย่าหยากำลังเซ็งเรื่องธาม เลยตัดสินใจไม่รอเวลา จะหมั้นกับเล้งภายในวันสองวันนี้ พ้งพยักหน้ารับรู้ แต่ไม่วายเตือนให้ระวังตัว

“สัญชาตญาณไอ้เล้งเหมือนสัตว์ป่า จมูกมันไว อย่ารอให้มันรู้ว่าลื้อเป็นใคร ลื้อจะกลายเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว”

ย่าหยากับพ้งคงคุยกันอีกนาน ถ้าจะไม่ได้ยินเสียงของเล้ง ซึ่งมาพร้อมเฉียงและเกี๊ยง ทักมาแต่ไกล พ้งซึ่งยืนหันหลังให้ ส่งสายตาหาทางเอาตัวรอด และย่าหยาก็เป็นคนคิดออก แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการโบ้ยให้พ้งเป็นคนแก่มาถามทาง ส่วนตัวเองมาดักรอเสี่ยใหญ่ เพราะมีเรื่องสำคัญต้องบอกให้รู้

แต่ไม่ทันที่เล้งจะขยับไปไหน ฮั้วในสภาพขอทานซอมซ่อก็ถลามาชน เกี๊ยงกับเฉียงถลาเข้ามาก่อนจะผงะ เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆ เล้งตกตะลึงไม่แพ้กัน แต่ไม่อยากทำตัวโหดร้ายต่อหน้าย่าหยา เลยตีหน้าขรึมสั่งให้เกี๊ยงพาตัวขอทานหนุ่มไปโรงพยาบาล แต่ไม่วายหาโอกาสกระซิบเกี๊ยงให้หาทางเก็บฮั้วทิ้งระหว่างทาง!

ธามยืนมองเหตุการณ์ทุกอย่างจากมุมลับตาไม่ไกลกันนั้น พร้อมกับเหวินเต๋อและหยงเป่า รุ่มร้อนไม่น้อยเมื่อเห็นย่าหยาควงเล้งขึ้นรถจากไปแล้ว แต่ถึงจะอยากรู้แค่ไหนว่าเธอไปทำอะไรที่ไหนกับเสี่ยใหญ่ ภารกิจตรงหน้าก็สำคัญกว่า เพราะเขาจะได้รู้เสียทีว่าสิ่งที่เขาคิดเป็นจริงหรือไม่...

ooooooo

เล้งไม่รู้เลยว่าการปรากฏตัวของฮั้วคือแผนลวงของธาม มัวหลงดีใจได้ปลื้ม เมื่อย่าหยามาดักรอ พร้อมกับบอกว่ามีธุระสำคัญ เพราะเขาเป็นคนทำให้เธอนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน

ย่าหยาเห็นท่าทางตื่นเต้นเหมือนชายหนุ่มแรกรักก็สะใจมาก ตีหน้าซื่อเอ่ยสารภาพเสียงหวาน “เสี่ยทำให้ฉันสับสนว่าควรจะรอคนรักเก่าของฉันไหม...ความห่วงใย ความเสมอต้นเสมอปลายที่เสี่ยมี ทำให้ฉันคิดหนัก ฉันควรจะรอคนที่ไม่รู้ว่าจะกลับมาหาฉันไหม หรือฉันควรจะอยู่กับความจริง อยู่กับคนที่ฉันเห็นว่าเขารักและพร้อมจะอยู่เคียงข้างฉัน”

เล้งใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ย้อนถามเหมือนจะเพ้อ “เธอใจอ่อนแล้วใช่ไหม”

“ถ้าเสี่ยยืนยันว่ายังรู้สึกกับฉันเหมือนเดิม”

“ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหน ฉันยืนยันคำเดิม ฉันรักเธอ...ย่าหยา”

“ขอบคุณค่ะที่ทำให้ฉันมั่นใจ ฉันคิดว่าฉันพร้อมแล้วที่จะอยู่กับความจริง”

ขณะที่เล้งหัวใจลิงโลด เมื่อย่าหยารับปากจะหมั้นด้วย ธาม เหวินเต๋อและหยงเป่าแค้นแทบกระอัก เมื่อค้นพบว่าเล้งเป็นคนบงการเรื่องเลวร้ายทั้งหมด เพราะเกี๊ยงจะฆ่าปิดปากฮั้วจริงๆ แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะจิวซึ่งปลอมตัวเป็นขอทานเข้าไปช่วยไว้ทัน หยงเป่ากับเหวินเต๋อนั้นถึงกับพูดไม่ออก รู้สึกผิดมาก ที่เคยโทษและกล่าวหาว่าเป็นความผิดของธาม โดยเฉพาะหยงเป่า ทำท่าจะไปเอาเรื่องเล้งจริงๆ ที่ฆ่าจางหลานชายเพียงคนเดียวที่มี

ธามต้องกล่อมให้หัวหน้าแก๊งทั้งสองใจเย็น “ผมเข้าใจความรู้สึกกู๋ที่สูญเสียคนที่ตัวเองรัก ผมเองก็เคยสูญเสีย เคยเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ากู๋ เราฆ่ามัน ความแค้นระหว่างมันกับเราอาจจะจบ แต่คนอื่นล่ะครับ ญาติพี่น้องของคนที่ต้องตายเพราะมัน จะหมดโอกาสได้เห็นมันชดใช้กรรมทันที”

ซินแสง้วงซึ่งนั่งฟังมาตลอด เห็นด้วยกับธาม ไม่อยากให้นองเลือด เพราะสำหรับคนบางคน การตายก็ไม่ใช่วิธีจัดการที่เหมาะสม แต่อยากให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหาจริงๆมากกว่า

ธามพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะหันไปขอความร่วมมือจากหัวหน้าแก๊งทั้งสอง “วันโหวตนโยบายถิ่นมังกรขาว เราต้องรวมพลังกันกระชากหน้ากากให้ทุกคนรู้ว่ามันคือคนที่ทำให้ที่นี่มัวหมอง เราต้องอดทนให้ถึงวันนั้นนะครับกู๋”

เหวินเต๋อกับหยงเป่าจำต้องยอมเดินตามข้อเสนอของธาม ไม่เห็นประโยชน์จะคัดค้าน เพราะถึงเล้งจะตายไปจริงๆ แก๊งอื่นที่คิดกระด้างกระเดื่อง ก็คงเข้ามาแทนที่และหาเรื่องป่วนแทน...สู้ตัดไฟแต่ต้นลมเลยดีกว่า

หมดจากเรื่องฮั้ว ธามก็ขอตัวจากทุกคนไปตามเสียงเรียกร้องของหัวใจบ้าง อยากรู้เหลือเกินว่าย่าหยาหายตัวไปไหนกับเล้ง แล้วกระทิงหนุ่มก็ได้ตาลุกวาว เมื่อเห็นสองหนุ่มสาวบริเวณหน้าร้านกาแฟในตรอกไม่ไกลจากศาลเจ้า เขาหัวเสียแทบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อเห็นสาวเสิร์ฟหน้าหวานยอมให้เสี่ยใหญ่จูบมือเพื่ออำลา

ย่าหยามองตามเล้งด้วยแววตาเคียดแค้น สะใจนักเมื่อสัมผัสได้ว่าเสี่ยใหญ่หลวมตัวเข้ามาในแผนของเธอแล้ว พลันภาพธามกับหงส์เมื่อเช้าก็ผุดขึ้นใหม่ หัวใจเจ็บหนึบ แต่ไม่ทันสลัดภาพบาดใจนั้นทิ้ง ก็ต้องยืนตัวแข็ง เมื่อเห็นธามมาปรากฏตรงหน้าพร้อมสีหน้าถมึงทึง ไม่ชอบใจที่เธอแอบทำลับๆล่อๆกับเล้งโดยที่เขาไม่รู้

“คนตระกูลตั้งไม่มีเรื่องส่วนตัวต้องปิดบังกัน”

“ฉันขอเรื่องนี้ไว้สักเรื่อง คุณจะไล่ฉันออกจากตระกูลก็เชิญ”

“มันเป็นความลับอะไรนักหนา ทำไมถึงบอกไม่ได้ คุยอะไร...ทำไมต้องให้มันจูบมือ!”

“ฉันจะให้เขาจูบปาก มันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน”

“เธอไม่มีสิทธิ์ ฉันไม่อนุญาต”

“เรื่องของหัวใจ คนในครอบครัว...ต่อให้เป็นพี่น้องคลานตามกันมาก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่ง!”

ธามยัวะจัด ดึงย่าหยามาจูบอย่างดุเดือดเร่าร้อน แสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเต็มที่ เลยถูกเธอตบหน้าฉาดใหญ่ พร้อมคำพูดตัดพ้อทั้งน้ำตา “คุณมีคุณหงส์แล้ว คุณยังกล้าทำกับผู้หญิงอื่นอย่างนี้อีกเหรอ ไม่ให้เกียรติฉัน ก็ควรนึกถึงเกียรติของผู้หญิงที่คุณจะแต่งงานด้วยบ้าง”

ธามใจอ่อนยวบเมื่อเห็นน้ำตาของอีกฝ่าย แต่ไม่ทันตอบโต้อะไร ย่าหยาก็ผละไปด้วยความน้อยใจสุดขีด ที่เห็นเขาไม่แก้ตัว ราวกับเป็นการยอมรับว่าการแต่งงานระหว่างเขากับหงส์คือเรื่องจริง

ooooooo

เล้งใจร้อนเรื่องย่าหยาเลยโทร.ไปขอความร่วมมือจากสุ่ย จะใช้ฉั่วเทียนเหลาเป็นสถานที่ประกาศการหมั้นหมายของตนกับสาวเสิร์ฟหน้าหวานอย่างเป็นทางการ สุ่ยกับหยกมณีหนักใจมาก กลัวธามจะอาละวาดเพราะแสดงท่าทีชอบย่าหยาเช่นเดียวกัน แต่ไม่อยากมีปัญหากับเล้ง เลยตกปากรับคำเสี่ยใหญ่ไปก่อน

ส่วนธาม...แล่นไปขอความช่วยเหลือจากหงส์ในเย็นวันเดียวกัน ให้ช่วยพูดกับย่าหยาเรื่องแต่งงาน หัวหน้าแก๊งหงส์ดำคนสวยยินดีช่วยเต็มที่ แต่ไม่วายเย้ากระทิงหนุ่มที่รักเหมือนพี่ชาย ว่าคงรักย่าหยามาก ถึงได้ร้อนรนและกระวนกระวายแบบนี้ ธามหน้ามุ่ย ไม่ยอมรับและเฉไฉว่าแค่ไม่อยากให้ใครเข้าใจผิด

“เฮียไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งสิ้น แล้วเฮียก็ไม่อยากให้หงส์เสียหาย”

“ไม่อยากให้หงส์เสียหาย หรือไม่อยากให้อาหยาเสียใจ”

“เขาจะเสียใจทำไม ชีวิตเฮียไม่ได้มีผลอะไรกับเขาสักหน่อย”

ท่าทางเขินของธาม ทำให้หงส์อดยิ้มไม่ได้ “ผู้หญิงคนนั้นรักเฮียค่ะ หงส์ดูก็รู้...ถึงอาหยาจะเป็นผู้หญิงใจแข็งและเก็บอารมณ์เก่ง แต่ยังไงผู้หญิงด้วยกันก็ดูออก แววตาอีฟ้องค่ะว่าอีน้อยใจและเสียใจเวลาเห็นเฮียอยู่กับหงส์”

“เป็นไปไม่ได้หรอกหงส์ เขามีคนรักของเขาอยู่แล้ว”

“เชื่อหงส์เถอะค่ะเฮีย หงส์ดูไม่ผิดหรอก”

แต่ไม่ทันที่ธามกับหงส์จะได้อธิบายเรื่องแต่งงาน เล้งก็ตัดหน้าประกาศหมั้นกับย่าหยาอย่างเป็นทางการเสียก่อน โดยมีสุ่ยกับหยกมณีเป็นแม่งาน คอยช่วยเต็มที่ เพราะไม่อยากมีปัญหากับเล้ง ย่าหยาปรายตาไปทางธาม ซึ่งเพิ่งมาถึงฉั่วเทียนเหลาพร้อมกับหงส์ด้วยแววตาตื่นตระหนก แต่ยังตั้งสติได้ รวบรวมแรงเดินไปแสดงตัวบนเวที

เสียงแขกเหรื่อปรบมือชอบใจ ทำให้เล้งปลื้มใจมาก “ผมรักผู้หญิงคนนี้โดยไม่มีเงื่อนไข เธอคือผู้หญิงที่จะเป็นภรรยาและแม่ของลูกๆผม ผมจะหมั้นและแต่งงานกับเธอให้เร็วที่สุด ส่วนจะเมื่อไหร่ก็แล้วแต่เธอจะกรุณา”

ย่าหยารู้ทันว่าเล้งพยายามใช้สถานการณ์บีบให้ตอบเรื่องเวลาจัดงานที่แน่นอน แต่เธอก็ไม่อ่อนข้อให้ส่งยิ้มหวานให้เสี่ยใหญ่และทุกคน พร้อมตอบแบบขอไปทีว่าคง

อีกไม่นาน ธามไม่สนใจท่าทางของใคร มัวหน้ามืดตามัวด้วยพิษรักแรงหึง จนหงส์สัมผัสได้ และเป็นฝ่ายพาเขาออกไปสูดอากาศข้างนอก เพื่อระงับอารมณ์และตั้งสติ

ธามยืนกรานจะไม่อธิบายอะไรกับย่าหยาอีก แต่หงส์ไม่ยอม เพราะดูออกว่าเขารักและเป็นห่วงความรู้สึกของสาวเสิร์ฟหน้าหวานมากแค่ไหน และที่สำคัญหงส์ก็มั่นใจว่าย่าหยาก็รักธาม ไม่ได้รักเล้งแน่ๆ

แต่ถึงหงส์จะเกลี้ยกล่อมเท่าไหร่ ธามก็ไม่สนใจ เพราะกำลังโมโห “มันเป็นเรื่องของเขา...ผู้หญิงคนนั้นลึกลับและซับซ้อนเกินกว่าที่เฮียจะเข้าใจ และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เฮียจะเสียเวลาไปใส่ใจด้วย”

“บางทีคนรักของอาหยาอาจไม่มีตัวตน อีอาจจะสร้างเรื่องขึ้นเพื่อกันตัวเองออกจากเฮีย บางทีอาหยาอาจจะรอว่าเมื่อไหร่เฮียจะพูดความจริงกับอี ก่อนที่อีจะตัดสินใจแต่งงานกับคนอื่นก็ได้นะ”

คำพูดของหงส์ทำให้ธามได้คิด และแม้เขาจะไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้ หัวใจก็ร่ำร้องไม่หยุด จนเขาต้องบากหน้าไปถามความจริงจากปากเธอ แล้วก็ถึงกับตาลุกวาวด้วยความไม่พอใจ เมื่อเห็นเล้งมาส่งเธอถึงหน้าหอพัก ย่าหยาดูจะตกใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมื่อเห็นสีหน้าดุดันของเขา ก็รู้ว่าคงไม่ใช่เรื่องดีจะต่อปากต่อคำด้วยแน่

แล้วก็จริงดังคาด ธามเก็บกดเรื่องเธอกับเล้งมาตลอดทั้งวัน จนต้องโพล่งถามออกไปอย่างเหลืออด

“นี่ใช่ไหม...ความลับที่เธอบอกว่าเดี๋ยวฉันก็รู้ ที่เธอเคยบอกว่าห่วงเนื้อห่วงตัวเพื่อคนรัก มันคงไม่ใช่เรื่องจริงสินะ ระหว่างเรามีอะไรที่เป็นเรื่องจริงบ้าง นอกจากเรื่องที่เธอจะแต่งงานกับไอ้เล้ง หัวใจเธอเป็นยังไงแน่ ฉันอยากรู้จริงๆ”

สายตาตัดพ้อของเขา ทำให้ย่าหยาทำหน้าไม่ถูก ได้แต่พึมพำไล่หลัง เมื่อเขาผลุนผลันจากไปแล้ว

“แล้วหัวใจคุณล่ะ...เป็นยังไง”

ooooooo

แม้ธามจะย้ำนักย้ำหนาว่าไม่อยากแก้ตัวกับย่าหยาอีก แต่หงส์เป็นห่วง และอดไม่ได้ ไปดักรอเจอสาวเสิร์ฟหน้าหวานในเช้าวันถัดมา เพื่ออธิบาย ความจริงเรื่องแต่งงาน ย่าหยามองคุณหนูคนสวยด้วยแววตาไม่อยากเชื่อ แล้วก็ถึงกับถอนใจโล่งอก เมื่ออีกฝ่ายยืนยันว่าไม่เคยคิดแต่งงานกับธาม

“เราสองคนเป็นพี่น้องที่รักกันมาก เราตายแทนกันได้ แต่ไม่เคยคิดจะใช้ชีวิตร่วมกัน”

“แล้วเรื่องฤกษ์แต่งงาน”

“ฤกษ์แต่งงานของเฮียคณินที่ปากน้ำโพ มีเรื่องฉุกละหุกที่นั่นนิดหน่อย เฮียธามกับฉันเลยรับเป็นธุระจัดการเรื่องชุดกับเรื่องฤกษ์ให้ ไม่ใช่งานแต่งของเราสองคน”

“ที่จริงคุณหงส์ไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาบอกฉันเลย”

“จำเป็นสิ จำเป็นมาก อย่างน้อยเธอก็ควรได้รู้ ความจริงก่อนตัดสินใจอะไร เฮียเป็นผู้ชายอบอุ่นที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ ถ้าเฮียรักใครเฮียตายแทนคนคนนั้นได้ โดยเฉพาะคนคนนั้นคือผู้หญิงที่เฮียรัก ฉันบอกได้เท่านี้ ขอให้เธอโชคดี”

ขณะที่สถานการณ์ของธามกับย่าหยายังไม่คลี่คลาย ต่างฝ่ายต่างกินแหนงแคลงใจ และไม่ยอมพูดจาปรับความเข้าใจกันดีๆ สถานการณ์ของเฉียงกับโบตั๋นก็คลุมเครือไม่ต่างกัน เพราะเล้งยังไม่วางใจอดีตมือขวาของธามและพยายามส่งเกี๊ยงมาสอดแนมเรื่องส่วนตัวของเขากับโบตั๋นเสมอ

เฉียงกับโบตั๋นตัดสินใจสละตัวเอง ทำให้ธามรังเกียจมากขึ้น เพื่อให้เล้งไว้ใจ ส่วนธามไม่ได้ใส่ใจเรื่องอดีตมือขวาและอดีตเมียเก็บ มัววางแผนกับทรงกลดและจิว ล่อให้เล้งมาติดกับ โดยขอความช่วยเหลือจากสุ่ยและหยกมณี ให้หลอกล่อพาโบตั๋นมาแอบฟังแผนการลับของเขาที่จะรวมตัวประชุมกับแก๊งเพื่อนสนิทในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

แผนการของธามสำเร็จลุล่วง โบตั๋นเก็บข้อมูลอย่างดีและตั้งใจจะเอาไปบอกเฉียง เพื่อใช้ประโยชน์เรื่องเล้ง แต่ไม่ทันกลับบ้าน นักร้องสาวดาวรุ่งก็ต้องเผชิญหน้ากับธามโดยบังเอิญเสียก่อน เธอตัดสินใจจะคืนปิ่นปักผมทำจากทองคำให้ แต่กระทิงหนุ่มไม่รับคืน แถมพูดให้ช้ำด้วยว่าอะไรที่เขาให้คนอื่นแล้ว...เขาไม่เอาคืน!

ย่าหยาผ่านมาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และอดไม่ได้จะต่อว่ากระทิงหนุ่มที่ใจร้ายใจดำกับโบตั๋นเกินเหตุ แต่ธามก็ไม่ยี่หระ ตอกกลับเรื่องที่เธอหว่านเสน่ห์ให้เล้งหลงใหลอีกต่างหาก ย่าหยาพยายามทำหูทวนลม แต่ธามก็ป่วนไม่เลิก

“ตกลงเธออยากใช้นามสกุลเสี่ยเล้งมากนักใช่ไหม”

“ฉันจะใช้นามสกุลใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ”

“เธอลืมแล้วเหรอว่าเธอเป็นคนในครอบครัวฉัน” ย่าหยาพึมพำตอบว่าไม่ลืม ธามยิ่งหัวเสีย “ไม่เคยลืมแล้วทำแบบนี้ทำไม มีวิธีอีกตั้งเยอะแยะที่เธอจะเข้าใกล้มันได้ โดยไม่ต้องเสี่ยง ทำไมเธอต้องเอาตัวเองเข้าแลกแบบนี้”

“คุณก็บอกฉันมาสิว่าทำไมฉันถึงเอาตัวเข้าแลกไม่ได้...เพราะอะไร”

จนแล้วจนรอด ธามก็ไม่ยอมสารภาพความรู้สึก ย่าหยาน้อยใจมาก และเลือกจะประชดประชัน ด้วยการเอาตัวไปใกล้ชิดกับเล้งมากขึ้น ธามได้แต่เฝ้ามองด้วยความช้ำใจ แต่ถึงจะโมโหหึงแค่ไหน ก็ต้องพยายามสลัดทิ้ง เพราะมีแผนการใหญ่ที่ต้องทำร่วมกับแก๊งเพื่อนสนิทในอีกไม่กี่วัน

ooooooo

เรื่องที่โบตั๋นแอบได้ยิน ถูกถ่ายทอดสู่เฉียงอย่างละเอียดลออ แต่ถึงสองผัวเมียจะตั้งใจใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ เพื่อเรียกความไว้วางใจจากเล้ง แต่นักร้องสาวดาวรุ่งก็อดเป็นห่วงธามไม่ได้ เฉียงต้องปลอบไม่ให้คิดมาก รู้ดีว่าอดีตเจ้านายหนุ่มเป็นคนลุ่มลึกและเจ้าแผนการ และบางทีเรื่องทั้งหมดนี้ก็อาจเป็นความจงใจ

“ถ้าผมเดาใจเฮียไม่ผิด และถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง นั่นหมายความว่าเฮียเตรียมตั้งรับไว้แล้ว คุณสบายใจได้”

จบคำก็ล้มตัวลงนอนบนพื้นเหมือนเคย โบตั๋นต้องดึงให้มานอนบนเตียงด้วยกัน ไม่อยากให้พวกเล้งที่คอยจับผิดสงสัย หรือรู้ทันแผนลวงของเขากับเธอ เฉียงไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะไว้ใจเขา โบตั๋นเลยต้องยืนยัน

“ถ้าไม่ไว้ใจ ต่อให้อยู่คนละมุมห้อง ฉันก็หนีคุณไปไหนไม่พ้น ฉันไว้ใจคุณ...ตั้งแต่เห็นคุณครั้งแรกด้วยซ้ำไป”

แผนการของเฉียงกับโบตั๋นได้ผลเกินคาด แม้เล้งกับเกี๊ยงจะไม่เชื่อสนิท แต่เฉียงก็ถือโอกาสวัดดวง ประกาศให้ฆ่าเขาทิ้งได้ หากความลับที่นำมาบอกไม่เป็นความจริง เล้งมองมาด้วยแววตาชอบใจ เลยไม่ทันระแวงว่าเฉียงจะหาทางเข้าไปแอบฟังถึงในห้องทำงานจนได้รู้ว่าเสี่ยใหญ่เรียกตัวอิก อดีตมือขวาของเคี้ยง หัวหน้าแก๊งเต่ามังกรมาช่วยถล่มพวกธามที่ฉั่วเทียนเหลาในอีก ไม่กี่วันข้างหน้า

ธามกับเล้งหายหน้าไปเพราะมัววุ่นกับการวางแผน ย่าหยาอดเป็นกังวลไม่ได้ โดยเฉพาะกับธาม ที่เธอพยายามสลัดภาพเขาทิ้งเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ...และแล้วกลางดึกคืนหนึ่ง เธอก็ได้ถอนใจโล่งอก เมื่อเขาแวะมาหาพร้อมคำเตือนไม่ให้เธอไปทำงานที่ฉั่วเทียนเหลาในวันรุ่งขึ้น ย่าหยาพยายามซักถามเหตุผล แต่เขาก็ไม่ยอมบอก เธอเลยเดาว่าคงเป็นเรื่องรุนแรง และเขาอาจต้องปะทะกับพวกเล้งที่นั่น!

ความเงียบถือเป็นการยอมรับ ย่าหยาร้อนรนมาก ลืมเรื่องขุ่นเคืองก่อนหน้าทุกอย่างและอาสาจะไปช่วย

ธามไม่ยอม ปฏิเสธเสียงเข้ม “เธอต้องอยู่ ถ้าฉันเป็นอะไรไป เธอต้องสานต่องานของเราให้สำเร็จ”

“คุณไปฉันไป คุณตายฉันตาย ไม่ใช่แค่ฉัน เป็นคนในครอบครัวคุณ แต่คุณคือคนในครอบครัวฉันด้วยคุณธาม”

สุดท้ายความยับยั้งชั่งใจก็หมดลง ธามคว้าตัวเธอมากอดแน่น ความอบอุ่นในหัวใจถาโถมแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ต่างจากย่าหยา ที่ยอมรับกับหัวใจตัวเองอย่างหมดสิ้น ว่ารักกระทิงหนุ่มคนนี้อย่างสุดหัวใจ

ธามไม่ยอมกลับบ้านหลังจากปรับความเข้าใจแล้ว แต่อยากส่งเธอเข้านอน ย่าหยาปลื้มใจมาก แต่ก็ไม่สบายใจด้วย เพราะเขาพูดเหมือนจะไม่ได้ทำอะไรแบบนี้อีก

“ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน ฉันผ่านช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดในชีวิต ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน ถ้าจะต้องเผชิญกับมันอีกครั้ง ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว”

ย่าหยาน้ำตาซึม อยากให้กำลังใจเขาบ้าง “แล้วไม่คิดว่าฉันจะกลัวบ้างเหรอ คุณดึงฉันมาเป็นคนในครอบครัวคุณ แต่คุณพูดเหมือนคุณอยู่ตัวคนเดียว ทำไมคุณไม่พูดกับฉันว่าเราจะสู้ด้วยกัน รอดไปด้วยกัน”

ธามพูดไม่ออก ทำท่าจะผละจากไป ย่าหยาเลยเป็นฝ่ายพูดแทน ด้วยกลัวลึกๆว่าจะไม่มีโอกาสนี้อีก

“ฉันอาจมีเหตุผลร้อยแปดที่ต้องทำเพื่อครอบครัวของฉัน บางครั้งมันอาจทำให้คุณโกรธ เกลียด ไม่พอใจ แต่ฉันอยากให้คุณรู้ไว้ ไม่เคยมีสักครั้งที่ฉันคิดจะทรยศหรือหักหลังคุณ”

น้ำเสียงสั่นเครือของเธอทำให้ธามหมดความอดทน หมุนตัวกลับมากอดเธอแน่น

“เราจะสู้ด้วยกัน รอดไปด้วยกัน...ย่าหยา”

ooooooo

ซีรีส์เลือดมังกร : กระทิง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด